วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2561

วิธีปั้นพอร์ตอย่างยั่งยืน


     ปีแรกเทรดเดอร์หน้าใหม่คิดว่า ตนเองสามารถทำกำไรได้ครั้งใหญ่เพื่อพลิกชีวิตในตลาดนี้ แต่สุดท้ายเราจะเห็นว่า เกือบทุกคนจะได้รู้จักกับคำว่า "ล้างพอร์ต"
ผมเองก็เช่นกัน จึงมีคำแนะนำสำหรับเทรดเดอร์ที่เข้าใหม่ในวงการนี้ คือ
     ปีแรกของการลงทุน ควรใช้เงินลงทุนเพียง 10-30% เพื่อ เก็บประสบการณ์ ไม่ให้ตนเองขาดทุนหนัก เพราะถ้าขาดทุนหนักจะต้องออกจากตลาด และการเรียนรู้พัฒนาจะขาดความต่อเนื่อง
     เป้าหมายคืออยู่ในตลาดได้ยาวนาน สมมติ ตัดสินใจลงทุน 100,000 บาท ลงทุนเทรดจริงเพียง 10,000-30,000 บาท เนื่องจาก สถิติ 95% จะขาดทุนในปีแรกเกือบทั้งหมด เพราะฉะนั้น เราควรป้องกันการขาดทุนให้ต่ำที่สุด 
---------------------------------------------------------------------

ลงทุนปีแรก : เราควรศึกษาเบสิคทั้งหมดจากแหล่งความรู้ต่างๆเช่น หนังสือ อินเตอร์เนท สัมนา ผู้มีประสบการณ์ เพื่อเป็นแนวทางในการเทรด และนำมาทดลองใช้ เก็บประสบการณ์ ฝึกฝนวินัย ควบคุมจิตใจ ศึกษาสภาพตลาด เพื่อปูพื้นฐานตนเองให้แน่นเสียก่อน เพราะต่อให้พลาดอย่างไร เราก็จะไม่หมดตัว ยังเหลือเงินให้เราอยู่ในเกมต่อไป
[วัดผลปีแรก ] ลงทุน12เดือนไม่ติดลบเกิน 30%
---------------------------------------------------------------------
ลงทุนปีที่สอง : นำวิธีการพื้นฐานที่ศึกษาจากแหล่งศึกษาทั้งหมด มาพัฒนาให้ดีขึ้น หรือ สร้างระบบเทรดของตนเอง เนื่องจากเทรดเดอร์แต่ละคนมีสไตล์การเทรดที่แตกต่างกัน เราต้องหาจุดแข็งของเราให้เจอ และพัฒนาจุดนั้นให้เราเป็น ผู้เชี่ยวชาญ ในสไตล์ที่เราถนัด และสร้างกำไรเพื่อดึงออกมาใช้จ่าย
โดยใช้เงินที่คิดจะลงทุน 80-100% มาลงทุน ถ้าขาดทุน -20% จะทำการหยุดวิธีการเทรดนั้น และ หาวิธีใหม่เพื่อทำกำไร แปลว่าเรามีโอกาสผิดพลาด 5 ครั้ง
[วัดผลปีสอง] กำไรเฉลี่ยต่อเดือน 5% จากการลงทุน 12 เดือน , ค้นหาสไตล์การเทรดของตนเองเจอ
---------------------------------------------------------------------
หมายเหตุ : ถ้ามีทุนมากพอ ปีที่ 2 สามารถทำ Port รายปี , รายเดือน . รายวัน พร้อมกันได้ แต่จำเป็นต้องมีระบบเทรดมากพอ เพื่อกระจายความเสี่ยง และมี Money Management ที่ซับพอร์ตระบบเทรด ให้Max Drawdown เงินลงทุนรวมทั้ง3พอร์ต- ไม่เกิน 10%
------------------------ตัวอย่างการปั้นพอร์ต-------------------
นาย A มีความต้องการทำกำไรเดือนละ 20% ทุกเดือน นายAมี 200,000 บาท จึงได้รับเงินเดือนละ 40,000 บาทตลอดไป
นาย B มีความต้องการเงิน 30,000 บาทต่อเดือน แต่นายBมีทุนเพียง 100,000 บาท แปลว่า นาย B ต้องทำกำไรให้ได้ถึง 30% ที่จะทำได้ตามเป้าหมาย
นาย B เข้าใจในกฏของ High Risk High Return ยิงทำกำไรมากเท่าไหร่ เราก็จะต้องเสี่ยงมาขึ้นตามไปเท่านั้น นาย B รับความเสี่ยงมากกว่า -20% ไม่ได้
นาย B จึงเลือกที่จะเดินอย่างๆช้า แต่มั่นคง ไม่รีบรวย เขาจึงยังไม่ออกจากงาน แต่เขากลับอดทน 1-3 ปี เพื่อฝึกทักษะ และ เก็บประสบการณ์ พร้อมกับปั้นเงินให้โตยิ่งขึ้น
[ นาย B ตั้งเป้าหมายทำกำไร 50% ต่อปี พร้อมกับนำโบนัสสิ้นปีมาเติมพอร์ต 100,000 บาททุกสิ้นปี ]
ปีที่หนึ่ง : 100,000 บาท -> กำไร50% -> Balance 150,000 บาท + โบนัสบริษัท 100,000 บาท = Balance 250,000 บาท
ปีที่สอง : 250,000 บาท ->กำไร50% = Balance 375,000 บาท + โบนัสบริษัท 100,000 บาท = Balance 475,000 บาท
ปีที่สาม : 475,000 บาท -> กำไร50% = Balance 712,500 บาท + โบนัสบริษัท 100,000 บาท = Balance 825,000 บาท
---------------------------------------------------
สรุป : นาย B ไม่รีบร้อนออกจากงาน เขาเลือกที่ทำเงินให้โตก่อน เพราะเขาเข้าใจว่า มีเงินมากย่อมได้เปรียบกว่าคนมีเงินน้อย
นาย B เลือกที่จะลาออกเมื่อเข้าสู่ปีที่ 4 นาย B มีเงินทุนถึง 825,000 บาท เขาต้องการเงินเดือนละ 30,000 บาท
เพราะฉะนั้น : นาย B จะทำงานง่ายขึ้นและความเสี่ยงต่ำลงเพราะเขาเพียงทำกำไรให้ได้เพียงแค่เดือนละ 3.6% เพียงเท่านั้น
[ เปรียบเทียบผลตอบแทน ต่อ การทำงานที่น้อยลงของนายB]
ปีหนึ่งต้องการสร้าง CashFlow หรือ CF ให้ได้เดือนละ 30,000 บาทต้องทำกำไรให้ได้เดือนละ 30%
ปีที่สองต้องการสร้าง CF ให้ได้เดือนละ 30,000 บาท ต้องทำกำไรให้ได้เดือนละ 12%
ปีที่สามต้องการสร้าง CF ให้ได้เดือนละ 30,000 บาท ต้องทำกำไรให้ได้เดือนละ 6.3%
ปีที่สี่ต้องการสร้าง CF ให้ได้เดือนละ 30,000 บาท ต้องทำกำไรให้ได้เดือนละ 3.6%
---------------------------------------------------
คุณคิดว่า ระหว่างนาย A ที่ต้องทำ 20% ในทุกๆเดือน กับ นายB ที่ทำงานน้อยลงขึ้นทุกปี และความเสี่ยงต่ำลงขึ้นทุกปี คุณคิดว่าใครจะยั่งยืนกว่ากัน
Port รายเดือน : อย่าหวังให้มันโตเพราะเดียวก็ถอนมาใช้ ทำให้พอร์ตรายเดือนงานมันง่ายเข้าไว้ [รายรับ>รายจ่าย]
"ถ้าคิดจะสร้างเนื้อสร้างตัว จงนำเงินไปทำ Port รายปีที่ความเสี่ยงต่ำกว่า แต่กำไรสูง"
---------------------------------------------------

"เรายอมเสียเวลา1ปีเพื่อฝึกฝน แต่ถ้าเราทำกำไรได้ ชีวิตที่เหลือเราจะทำได้ทั้งชีวิต"
ปัจจุบัน : เทรดเดอร์อายุ 30 ปี อายุขัยคือ 80 ปี เราเสียเวลาปั้นพอร์ตเป็นเวลา 2 ปีในพอร์ตรายปี ถ้าเราทำได้แปลว่าเราสร้างกระแสเงินสดอย่างสม่ำเสมอได้แล้ว
ในปีที่สองเทรดเดอร์จะเริ่มสร้าง CF ได้อย่างมั่นคง ในอีก 48 ปีที่เหลือในชีวิต เพราะฉะนั้น : เวลา 2 ปีที่เสียไปในการฝึกฝน และปั้นพอร์ต มันน้อยมากๆ กับเวลาที่เหลือที่จะทำไรตลอดไปทั้งชีวิต
---------------------------------------------------
"คุณไม่จำเป็นต้องรีบเลยเพราะเส้นชัยไม่เคยหนีไปไหน" มีแต่ตัวเราที่ยอมแพ้ แล้วเดินออกจากสนามไปเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น